[Fic SNSD] Taeny - พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว (Rewrite)
เรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังตามหาสิ่งที่สูญเสียไป นิยายอ้างอิงวงค์เกิร์ลส์ เจนเนอเรชั่น
ผู้เข้าชมรวม
424
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Prologue
โซล, 2008
เด็กผู้หญิงวัย 7
ขวบ
เดินลงจากรถที่จอดหน้าบันไดทางขึ้นคฤหาสน์ โดยมีคนขับรถลงมาเปิดประตูให้
“คุณหนูคิมครับ
วันนี้คุณท่านมีแขกมาเยี่ยมบ้านจากอเมริกานะครับ”
คนขับรถพ่วงตำแหน่งพ่อบ้านประจำของทายาทคิมคนเล็กกล่าวให้คุณหนูของเขาทราบ
พร้อมช่วยแทยอนจัดชุดนักเรียนประถมให้ดูเรียบร้อย
จากที่หลุดลุยเพราะเจ้าตัวนั้นได้เล่นอย่างสนุกสนานที่โรงเรียน
“ใครหยอ อัลเฟรด”
เพราะฟันหน้าที่หายไปตามอายุของเด็กอาการพูดไม่ชัดก็ไม่แปลกอะไร
“เพื่อนของท่านและครอบครัวของเขาน่ะครับ”
เมื่อได้คำตอบแทยอนก็พยักหน้าหงึกๆ แล้วเดินเข้าไปในตัวคฤหาสน์
“กลับมาแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ” แทยอนพูดขึ้นพร้อมก้มหัวทักทายเก้าสิบองศาอยู่สามครั้ง
“เจ้าแท กลับมาแล้วหรอ? นี่คุณลุงฮวังเดวิด เพื่อนแด๊ดเอง นี่ฮวังมินยองภรรยาเขา
แล้วนั้นก็ฮวังมิยอง ลูกสาวเขา” แมธทิวคิม หนุ่มวัยกลางคนลูกครึ่งฝรั่งเศส-เกาหลีแนะนำแขกในบ้านให้ลูกสาวรู้จัก
แทยอนกวาดสายตามองทุกคนที่พ่อแนะนำให้รู้จัก
จนมาถึงคนสุดท้าย
อยู่ดีๆแทยอนก็กลั้นหายใจกลืนน้ำลายลงคอขึ้นมาดื้อๆ
“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อฮวังมิยองนะ” พี่สาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาพูดพร้อมยืนออกมาแนะนำตัวในสไตล์อเมริกันเกิร์ลของเขา
ผมซอยสั้นของพี่สาวไม่ได้ทำให้ดูอ่อนหวานน้อยลงเลย กลับทำให้ดูน่ารักด้วยซ้ำ
เป็นเพราะอะไรไม่รู้แทยอนถึงกระพริบตาไม่ได้
ได้แต่มองคนข้างหน้า ทุกการขยับได้ช้าลงกลายเป็นภาพสโลว์เพียงแค่ผู้หญิงตรงหน้ายิ้มออกมา
ตาที่ค่อยๆโค้งกลายเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวแทบทำให้หัวใจของเด็กเจ็ดขวบเกือบหยุดเต้น
“ชื่อทะ…แทยอนค่ะ”
มือที่สั่นเพราะความตื่นเต้นเอื้อมออกไปจับมือพี่สาว
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะแทแท~”
“พี่เขาจะย้ายมาอยู่เกาหลีซักพัก
แด๊ดก็เลยให้ทั้งครอบครัวเขามาอยู่กับเราเลย”
จากที่หายใจติดๆขัดๆ
ตอนนี้แทยอนแทบจะหยุดหายใจแล้วละ
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ~”
เนี่ยน่ะหรอ พี่สาวอเมริกันของฉันนนนนนนนนน
……………………
โซล, 2018 ปัจจุบัน
บนเพนท์เฮาส์ของคอนโดแห่งหนึ่งในกรุงโซล น้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ไม่ได้ใหญ่มากถูกลมพัดให้มีคลื่นเล็กพอที่จะเกิดเสียงได้
ร่างเล็กของผู้หญิงหลับตาลงฟังเสียงน้ำกระทบกับขอบสระ มันเป็นเสียงที่ช่วยคล่อนคลายได้ดีสำหรับเธอ
ท้องฟ้าสีเทาหม่นสีเดียวกับควันของสารเคมีที่เธอพ่นออกมาจากปอดอย่างช้าๆ
คุณเคยรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปจากชีวิตไหม
ไม่ใช่ว่าชีวิตนั้นว่างเปล่าแล้วรู้สึกเหมือนมันไม่สมบูรณ์
แต่ว่าเป็นความรู้สึกของการสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป
นั่นเป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกมาทั้งชีวิต
คนที่รู้จักฉันหลายคนบอกว่าฉันเป็นเด็กมีปัญหา
บางคนก็ว่าฉันปิดกั้นเกินไป ไม่ค่อยพูดกับใคร เข้าถึงยากอะไรทำนองนั้น
อาจารย์เก่าที่โรงเรียนเคยแนะนำให้ฉันไปพบจิตแพทย์อยู่บ่อยครั้ง
แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะไปเลยซักครั้ง
แทบทุกคนที่เข้ามาเป็นเพื่อนฉันส่วนมากก็หวังเงินทั้งนั้น
แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็มีเพื่อนจริงๆตั้งห้าคน ทั้งชีวิตมีแค่ห้าคนเนี่ยแหละ
คนในครอบครัวบอกว่าการสูญเสียของฉันอาจจะเป็นสิ่งที่กระทบจิตใจจนทำให้ฉันปิดกั้นตัวเองจากทุกสิ่งทุกอย่าง
ฉันเป็นเด็กอายุ 17
ปี ที่สูญเสียความทรงจำไปตอนที่ฉันมีอายุเพียงเก้าขวบ
เพราอุบัติเหตุรถยนต์ ในเหตุการณ์ครั้งนั้นฉันได้สูญเสียแม่ไปด้วย
ไม่มีความทรงจำดีๆของแม่เหลือให้ฉันจำ ใบหน้าของท่านก็เคยเห็นแต่ในรูปภาพเท่านั้น
แต่ทุกครั้งที่นึกถึงท่าน น้ำตามันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
เหมือนสมองจำอะไรไม่ได้แต่หัวใจยังรู้สึก
คงเป็นเพราะหัวใจที่ยังรู้สึกละมั้ง
ที่ทำให้ฉันใช้เวลาแปดปีที่ผ่านมาพยายามที่จะจำทุกอย่างให้ได้ เพราะหัวใจฉันนั้นบอกว่ามีสิ่งสำคัญอีกอย่างที่หายไปกับความทรงจำนั้น
“พี่แท กินข้าว!!”
ผู้หญิงร่างสูงผมยาวผิวสีน้ำผึ้งชะโงกหน้าออกจากประตูเลื่อนกระจกตะโกนออกมาพร้อมรอยยิ้ม
เด็กนั่นชื่อ ยูริ หนึ่งในเพื่อนของฉัน
พ่วงตำแหน่งลูกพี่ลูกน้องของฉัน ถ้าถามว่าบนโลกนี้ใครเข้าใจฉันที่สุด ก็คงเป็นยูริ
เพราะเรื่องราวของเธอมันก็ไม่แตกต่างจากฉันเท่าไรเลย
……………………
หญิงสาวผมสีแดงเข้มนั่งอยู่บนที่นั่งไม้หินอ่อนในลานของคณะบริหารธุรกิจ
ที่นี่คือมหาลัยที่ดังและใหญ่ที่สุดในกรุงโซล หญิงสาวถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ แต่เธอต้องมามหาลัยเพราะอาจารย์นัดเมคอัพคลาสที่แล้ว
เธอหงายหน้ามองท้องฟ้าสีเทาหม่นแล้วถอนหายใจอีกครา
บรรยากาศก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกร่าเริงขึ้นเลย
เธอได้กลับมาอยู่เกาหลีครบ 1 ปี เศษ
แล้ว แต่ความรู้สึกหน่วงๆ ทุกครั้งที่คิดถึงใครคนหนึ่งนั้นก็ไม่เคยจางหาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้มาอยู่เกาหลี เธอเคยมาเรียนที่นี่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของเพื่อนพ่อ
มาเรียนได้เพียงสองปีเธอก็ต้องกลับไปศึกษาต่อที่บ้านเกิด
ฉันชื่อ ทิฟฟานี่ ฮวัง อายุ 19 ปี
สัญชาติอเมริกัน เรียนอยู่ปีสอง คณะบริหารธุรกิจในมหาลัยโซล เป็นดาวคณะ
เรียนก็เก่ง กิจกรรมก็ดี ฉันเป็นคนมีเพื่อนเยอะเพราะนิสัยที่ร่าเริงของฉัน
แต่ที่สนิทจริงๆก็มีไม่กี่คนหรอก ฐานะที่บ้านก็เรียกว่ารวยเป็นอันดับต้นๆของเกาหลีเลยก็ว่าได้
ฉันมีโอกาสที่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ทุกคนอิจฉา แต่ทำไม ฉันก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายในชีวิตอยู่ดี
ฉันเชื่อว่าทุกคนต้องเคยสูญเสีย
ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราก็เคยสูญเสียกันทั้งนั้น บางคนอาจจะแค่ของที่รักหาย
บางคนอาจจะสูญเสียโอกาส
ส่วนฉัน....ฉันเคยสูญเสียคนๆหนึ่งไป
ฉันสูญเสียเขาให้กับอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว
.................................................
คังวอนโด, 2016
ในบ้านไม้หลังเล็กหลังหนึ่ง
กลางพื้นที่หญ้ากว้างขวางสุดลูกหูลูกตา อากาศร่มเย็นเป็นปกติของพื้นที่บนเขา
ที่นี่อาจจะเป็นบ้านพักที่ดูดีสำหรับนักท่องเที่ยว
แต่สำหรับฉันที่นี่ก็คุกดีๆนี่เอง
บ้านไม้หลังนี้ตั้งอยู่บนภูเขา ที่อยู่ตรงกลางของภูเขาอีกหลายลูกในจังหวัดนี้
ที่นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ตไม่มีอุปกรณ์สื่อสารหรือทีวีให้ฉันได้เห็นโลกผายนอก
ฉันไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ถ้าหนีออกไปมีหวังได้ตายเพราะหลง
ร่างของเด็กหญิงผิวขาวใสผมดำยาวลงมาถึงกลางหลัง
นั่งระบายสีน้ำลงไปยังแคนวาส สายตาเศร้าสร้อยมองตามพู่กันที่ลากระบายสีดำลงไป
“ฮยอนมากินข้าว”
เสียงแข็งของชายหนุ่มวัยกลางคนเรียกให้เด็กวัย 15 ปีให้เข้ามาในบ้าน
ทำให้เด็กหญิงสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะลุกไปตามที่เขาสั่ง
“ฉันทำกับข้าวให้แกกิน
เอาแต่เขี่ยเล่นอยู่ได้” เสียงที่แข็งขึ้นไม่ได้ทำให่เด็นน้อยเงยหน้าขึ้นมาสนใจอย่างได้
“นี่ฉันคุยกับแกอยู่นะ!”
“.......”
“ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็กเพื่อเหตุผลเดียว
แต่แกกับทำไม่ได้ บุญแค่ไหนแล้วที่ฉันยังให้แกมีชีวิตอยู่ต่อ”
“แล้วทำไมไม่ฆ่าฉันทิ้งไปเลยละ!!!”
เด็กหญิงลุกขึ้นตะโกนกลับอย่างทนไม่ไหว
“แทฮยอน!!” เพี๊ยะ!! ฝ่ามือหนาตบลงไปยังใบหน้าขาวใส
ผลงานอื่นๆ ของ ผมชมพู ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ผมชมพู
ความคิดเห็น